แนวทาง

กลุ่มเกษตรอินทรีย์ปัถวีโมเดล [ไทย]

  • ผู้สร้างสรรค์:
  • การอัพเดท:
  • ผู้รวบรวม:
  • ผู้เรียบเรียง:
  • ผู้ตรวจสอบ: ,

ปัถวีโมเดล

approaches_4268 - ไทย

สมบูรณ์: 97%

1. ข้อมูลทั่วไป

1.2 รายละเอียดที่ติดต่อได้ของผู้รวบรวมและองค์กรที่เกี่ยวข้องในการประเมินและการจัดเตรียมทำเอกสารของแนวทาง

วิทยากรหลัก

co-compiler:
ผู้รวบรวม:

ไผผักแว่น นางสาวปาริชาติ

0-3721-0781 / 08-5920-8429

parichat19@hotmail.com

สถานีพัฒนาที่ดินปราจีนบุรี

135/1หมู่. 5 ตำบลเนินหอม อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี 25230

ไทย

สนับสนุนปจัจัยการผลิต โปสเตอร์ แผ่นพับ ประชาสัมพันธ์กลุ่มผ่าน วีทีทัศน์ ออกอากาศมางช่อง 9 สื่อโซเชี่ยส (Line) และยกเป็นกลุ่มต้นแบบการทำเกษตรอินทรีย์ เพื่อเผยแพร่ผ่านเวทีการฝึกอบรมหมอดินอาสา เกษตรกร และผู้สนใจ:

เจริญทวีชัย นางสาวจรรจิรา

0-3943-3713-4 / 08-1845-3611

jangi@windowslive.com

สถานีพัฒนาที่ดินจันทบุรี

ม. 8 ตำบลนายายอาม อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี 22160

ไทย

ผู้ใช้ที่ดิน:

สมพันธุ์ นายทรงวุฒิ

08-98298252 / -

- / -

เกษตรกร

42/12 หมู่ 1 ตำบลคลองพูล อำเภอเขาคิชฌกูฎ จังหวัดจันทบุรี

ไทย

ผู้ใช้ที่ดิน:

รักษา นางสมพร

08-494-50626 / -

- / -

เกษตรกร

5/9 หมู่ 2 ตำบลปัถวี อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี

ผู้ใช้ที่ดิน:

วิเชียน้อย นายวีนัส

08-1868-1911 / -

- / -

เกษตรกร

ที่อยู่องค์กร 7 หมู่ 12 ตำบลพลับพลา อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี

1.3 เงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับการใช้ข้อมูลที่ได้บันทึกไว้ผ่านทาง WOCAT

วันที่เก็บรวบรวมข้อมูล (ภาคสนาม):

23/11/2018

ผู้รวบรวมและวิทยากรหลักยอมรับเงื่อนไขเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลที่ถูกบันทึกผ่านทาง WOCAT:

ใช่

2. คำอธิบายของแนวทาง SLM

2.1 การอธิบายแบบสั้น ๆ ของแนวทาง

กลุ่มเกษตรอินทรีย์ ปัถวีโมเดล เป็นแหล่งเรียนรู้และสร้างเครือข่ายการผลิตผัก ผลไม้ และการแปรรูปสินค้าเกษตรอินทรีย์ เพื่อจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ

2.2 การอธิบายอย่างละเอียดของแนวทาง

การอธิบายอย่างละเอียดของแนวทาง:

(1) อะไรคือลักษณะที่สำคัญหรือคุณลักษณะที่เห็นเด่นชัดของแนวทาง
กลุ่มเกษตรอินทรีย์ ปัถวีโมเดล เป็นการรวมตัวกันของเกษตรกรผู้ผลิตผักและผลไม้ ที่ต้องการผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ โดยกลุ่มฯมีบทบาทหน้าที่ จัดให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ให้คำปรึกษา จัดหาปัจจัยการผลิตและการตลาด แก้ไขปัญหาร่วมกัน

2) อะไรคือเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ของแนวทาง
กลุ่มเกษตรอินทรีย์ ปัถวีโมเดล มีวัตถุประสงค์เพื่อรวมกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตผักและผลไม้ เพื่อการเรียนรู้และเสริมสร้างความสามารถในการบริหารจัดการผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ การจัดการตลาด รวมทั้งเผยแพร่ความรู้การผลิตพืชผักและผลไม้ที่ได้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ไปสู่สาธารณะ

(3) วิธีการใดที่ถูกเอามาใช้
กลุ่มเกษตรอินทรีย์ ปัถวีโมเดล มีวิธีการดำเนินงานประกอบด้วย
1. รวมกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตผักและผลไม้
2. จัดให้มีเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเสริมสร้างความสามารถในการบริหารจัดการผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์
3. การจัดการตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ
4. เผยแพร่ความรู้การผลิตพืชผักและผลไม้ที่ได้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ไปสู่สาธารณะ
5. การจัดการด้านการท่องเที่ยวเชิงเกษตร
6. Technology Transfer อบรม ดูงาน แปลงสาธิต นิทรรศการ สื่อสิ่งพิมพ์ เฟสบุ๊ค
7. การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์
8. การจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชน
r (4) ขั้นตอนของการเอาไปปฏิบัติใช้มีอันไหนบ้าง
ขั้นตอนการดำเนินงาน
1 นายรัฐไท พงษ์ศักดิ์ เป็นผู้ริเริ่มทำสวนไม้ผลอินทรีย์ในหมู่บ้านปัถวี ที่ประสบผลสำเร็จ มีเกษตรกรและผู้สนใจมาศึกษาดูงาน ทำให้เกิดความต้องการทำเกษตรอินทรีย์
2. เกษตรกรผู้สนใจ รวมตัวกันจัดตั้งกลุ่มเรียกว่า “กลุ่มเกษตรอินทรีย์ ปัถวีโมเดล ” เพื่อเป็นศูนย์กลางของเกษตรกรที่ผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐานเดียวกัน
3. กลุ่มฯ จัดให้มีเวทีแลกเปลี่ยน เรียนรู้ จัดหาปัจจัยผลิต ร่วมกันวิเคราะห์และแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการตลาด โดยจัดให้มีการประชุมเป็นประจำทุกวันที่ 20 ของเดือน
4. กลุ่มเกษตรอินทรีย์ ปัถวีโมเดล ได้นำมาตรฐานการบริหารจัดการกลุ่มตามข้อกำหนดมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ในรูปแบบ PGS (Participatory Guarantee System) ภายใต้การให้คำแนะนำจากภาครัฐ


5. กลุ่มเกษตรอินทรีย์ ปัถวีโมเดล ดำเนินกิจกรรมมุ่งเน้น 3 ด้าน คือ ด้านการผลิต ด้านการตลาด และด้านการท่องเที่ยวเชิงเกษตร
6. กลุ่มฯ ได้จัดให้มีกิจกรรมเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการด้านการตลาด ได้แก่ การเผยแพร่การทำเกษตรอินทรีย์ของกลุ่ม การจำหน่ายผลผลิต การเปิดให้ผู้สนใจเข้ามาเที่ยวชม ดูงาน อบรมการทำเกษตรอินทรีย์ การเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ผลงานของกลุ่ม
7. กลุ่มฯ ได้จัดให้มีกิจกรรมเพื่อสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ได้แก่ การเปิดสวนให้เที่ยวฟรีกินฟรี และจำหน่ายผลผลิต
8. Technology Transfer เปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ เพื่อสนับสนุนงานของภาครัฐ
9. กล่มได้รับการ เสริมสร้างความเข้มแข็งโดยการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน เช่น ได้รับการสนับสนุน เครื่องจักรแปรรูปผลิตภัณฑ์ผลไม้อินทรีย์ จากบริษัทเอกชน ได้รับสนับสนุนปัจจัยการผลิตจากภาครัฐ

(5) ผู้มีส่วนได้เสียมีผู้ใดที่เกี่ยวข้องและบทบาทของบุคคลเหล่านั้นมีอะไรบ้าง
ในการดำเนินงานของกลุ่มเกษตรอินทรีย์ปัถวีโมเดล มีผู้เกี่ยวข้อง ได้แก่
- เกษตรกรเป็นประธานกลุ่ม โดยมีบทบาท บริหารกลุ่ม ส่งเสริมผลักดันกลุ่ม เสียสละเวลา สถานที่ เงินเพื่อขับเคลื่อนกลุ่ม ถ่ายทอดองค์ความรู้ เป็นหน้าตาของกลุ่ม
- เกษตรกรสมาชิกกลุ่มเกษตรอินทรีย์ปัถวีโมเดล แลกเปลี่ยนรู้ การจัดการด้านการแปรรูปผลิตภัณฑ์ การล้าง คัดแยกเกรดไม้ผล การตลาด ซื้อ-ขาย ถ่ายทอดองค์ความรู้ ออกงานแสดงนิทรรศการและขายสินค้า ผ่านสื่ออนไลน์
- ผู้สนใจอื่นๆ ได้แก่ เกษตรกรทั่วไป หมอดิน นักเรียน นักศึกษา นักท่องเที่ยว ผู้บริโภค
- ผู้แทนตลาด ได้แก่ TOP market, เลม่อนฟาร์ม ญี่ปุ่น เกาหลี ยุโรป รับซื้อผลผลิต
- เจ้าหน้าที่ภาครัฐ สถาบันการศึกษา อบต. อบจ. สื่อมวลชน เอกชน มีบทบาทให้การสนับสนุน งบประมาณ การเผยแพร่ การจัดเวทีเรียนรู้ ดูงาน สนับสนุนเครื่องจักร

(6) สิ่งที่ผู้ใช้ที่ดินชอบหรือไม่ชอบเกี่ยวกับแนวทาง
ประเด็นที่เกษตรกรชอบในกระบวนของกลุ่มเกษตรอินทรีย์ ฯ ได้แก่
- มีแหล่งเรียนรู้ ดูงาน เพื่อศึกษาหาข้อมูลไปแก้ไขปัญหาในการประกอบอาชีพ
- เป็นการเรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์
- เปิดโอกาสให้เกษตรกรผู้สนใจเข้าร่วมกลุ่ม แต่ต้องทำตามมาตรฐานของกลุ่ม
- ทำให้เกิดความมั่นคงในอาชีพในกลุ่มเกษตรอินทรีย์ ปัถวีโมเดล เนื่องจากมีการประชุมทุกเดือน มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การผลิต ช่วยแก้ปัญหาของกลุ่ม ช่วยกันขับเคลื่อนและหาตลาด
- ทำให้เกิดมี่สังสรรค์ recreation ทำให้เกิดความสุขในการที่ได้มีโอกาสพบปะ และแลกเปลี่ยน ซึ่งกันและกัน
-เกิดความเชื่อมั่นในการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย

ประเด็นที่ เกษตรกรไม่ชอบ ได้แก่
-จำนวนสมาชิกกลุ่มฯ หากมีจำนวนมากเกินไปจะทำให้มีการบริหารจัดการที่ยุ่งยาก

2.3 รูปภาพของแนวทาง

ข้อสังเกตทั่วไปเกี่ยวกับรูปภาพ:

-

2.4 วีดีโอของแนวทาง

ความคิดเห็น อธิบายสั้นๆ:

วิสาหกิจชุมชนเกษตรเพื่อสุขภาพบ้านปัถวี อ.มะขาม จ.จันทบุรี

วันที่:

03/06/2018

สถานที่:

-

ชื่อของผู้ถ่ายวีดีโอ:

ทีมกสิกรรมเครือข่ายธรรมชาติภูเก็ต

ความคิดเห็น อธิบายสั้นๆ:

ชุมชนบ้านปัถวี ส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์

วันที่:

26/05/2015

สถานที่:

-

ชื่อของผู้ถ่ายวีดีโอ:

NBT New

ความคิดเห็น อธิบายสั้นๆ:

กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรเพื่อสุขภาพบ้านปัถวี ต.ปัถวี อ.มะขาม จ.จันทบุรี ยึดหลักการผลิตผลไม้อินทรีย์ที่ได้คุณภาพ และต่อยอดให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างผู้ประกอบการและผู้บริโภค ด้วยการเปิดให้นักท่องเที่ยวเลือกชิมผลไม้ ลดรายจ่าย สร้างรายได้ โดยไม่ต้องเสียค่าขนส่งไปขาย หรือถูกกดราคา

วันที่:

06/06/2015

สถานที่:

-

ชื่อของผู้ถ่ายวีดีโอ:

สำนักข่าวไทย TNAMCOT

2.5 ประเทศ ภูมิภาค หรือสถานที่ตั้งที่ได้นำแนวทางไปใช้

ประเทศ:

ไทย

ภูมิภาค/รัฐ/จังหวัด: :

จันทบุรี

ข้อมูลเฉพาะเพิ่มเติมของสถานที่ตั้ง:

5 หมู่ 2..ตำบลปัถวี อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี

ความคิดเห็น:

-

2.6 วันที่เริ่มต้นและสิ้นสุดของแนวทาง

ระบุปีที่เริ่ม:

2016

ความคิดเห็น:

-

2.7 ประเภทของแนวทาง

  • เป็นนวัตกรรมท้องถิ่นล่าสุด/ นวัตกรรมใหม่

2.8 เป้าหมายหรือวัตถุประสงค์หลักของแนวทาง

กลุ่มเกษตรอินทรีย์ ปัถวีโมเดล มีวัตถุประสงค์เพื่อรวมกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตผักและผลไม้ เพื่อการเรียนรู้และเสริมสร้างความสามารถในการบริหารจัดการผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ การจัดการตลาด รวมทั้งเผยแพร่ความรู้การผลิตพืชผักและผลไม้ที่ได้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ไปสู่สาธารณะ

2.9 เงื่อนไขที่เอื้ออำนวยหรือเป็นอุปสรรคต่อการนำเทคโนโลยีภายใต้แนวทางนี้ไปปฏิบัติใช้

บรรทัดฐานและค่านิยมทางสังคม วัฒนธรรม ศาสนา
  • เอื้ออำนวย

เพราะค่านิยมของสังคมไทย คือ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน จึงมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน โดยไม่มีการปิดบังข้อมูล

การมีไว้ให้หรือการเข้าถึงแหล่งการเงินและบริการ
  • เอื้ออำนวย

กลุ่มจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชน กู้ง่ายในนามกลุ่ม แต่กลุ่มไม่กู้ เพราะไม่อยากเป็นหนี้ แต่ประธานกลุ่มกู้เพื่อเอาเงินมาสร้างโรงงานคัดแยก เป็นความเสียสละของผู้นำ

การจัดตั้งระดับองค์กร
  • เอื้ออำนวย

หน่วยงานภาครัฐ ให้ความรู้ คำแนะนำการทำเกษตรอินทรีย์ สนับสนุนปัจจัยการผลิต ตรวจรับรองแปลง ป้าย โปสเตอร์ แผ่นพับ สื่อสิ่งพิมพ์ VDO เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์ จัดตั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน (ปัถวี โมเดล)
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อบต. และ อบจ.) ช่วยการติดต่อประสานกับผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ มาช่วยอบรมหรือให้ความรู้แก่กลุ่ม
สถาบันการศึกษา พานักเรียน / นักศึกษา มาอบรม ดูงาน และลงมือปฏิบัติจริง เพื่อให้เข้าใจกระบวนการผลิต ควบคู่การท่องเที่ยวชุมชน
เอกชน สนับสนุนเครื่องจัก

  • เป็นอุปสรรค

สนับสนุนไม่ต่อเนื่อง สนับสนุนผิดกลุ่มเป้าหมาย

การร่วมมือหรือการทำงานประสานกันของผู้ลงมือปฏิบัติ
  • เอื้ออำนวย

ปัจจุบันติดต่อประสานงานง่ายมากกว่าขึ้นกว่าอดีต เพราะมีช่องทางการสื่อสารหลายอย่าง โทรศัพท์ ไลน์ เฟสบุ๊ค

กรอบแนวทางในการดำเนินการด้านกฎหมาย (การถือครองที่ดิน สิทธิในการใช้ที่ดินและน้ำ)
  • เป็นอุปสรรค

แปลงเกษตรอินทรีย์ของเกษตรกรที่ไม่มีโฉนด ไม่สามารถขอใบรับรองมาตรฐานได้ ในบางมาตรฐาน

นโยบาย
  • เอื้ออำนวย

ส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์ ทำให้มีหน่วยงานรัฐมาสนับสนุน

  • เป็นอุปสรรค

ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐไม่รู้จักพื้นที่ ไม่รู้จักกลุ่ม มีการส่งเสริมผิดกลุ่ม ผิดวัตถุประสงค์ของโครงการ ทำให้สมาชิกกลุ่มเกษตรอินทรีย์ไม่ได้การสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐบางหน่วยงาน

การกำกับดูแลที่ดิน (การตัดสินใจ การนำเอาไปปฏิบัติใช้ และการบังคับใช้)
  • เอื้ออำนวย

ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชให้เหมาะสมกับศักยภาพของดิน

  • เป็นอุปสรรค
ความรู้เกี่ยวกับ SLM การเข้าถึงการสนับสนุนด้านเทคนิค
  • เอื้ออำนวย

มีการจัดตั้งกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน ทำให้ง่ายต่อการเข้าถึงหน่วยงานให้การสนับสนุน
ศวพ. 6 ให้คำแนะนำการทำเกษตรอินทรีย์ ตรวจสารปนเปื้อนของน้ำ สนับสนุนปัจจัยการผลิต ตรวจรับรองแปลงมาตรฐานเกษตรอินทรีย์
กรมพัฒนาที่ดิน สนับสนุนปัจจัยการผลิต โปสเตอร์ ป้าย ช่วยประชาสัมพันธ์กลุ่มผ่านการถ่ายทำ วีทีทัศน์ออกอากาศทาง ทีวี
สำนักงานพัฒนาชุมชน จัดตั้งเป็นแหล่งเที่ยวเที่ยวชุมชน (ปัถวีโมเดล) ป้าย สื่อสิ่งพิมพ์ เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์

ตลาด (จัดซื้อปัจจัยนำเข้า ขายผลิตภัณฑ์) และราคา
  • เอื้ออำนวย

หาตลาดเอง และมีตลาดวิ่งเข้าหา เงื่อนไขคือ กลุ่มจะเป็นผู้ตั้งราคาจำหน่ายเอง ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง

  • เป็นอุปสรรค

ตลาดต่างประเทศที่อยู่ไกล เช่น ยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี ระยะเป็นอุปสรรคในการขนส่งผลผลิต กลุ่มต้องดูแลจัดการดีเพื่อไม่ให้ผลไม้อินทรีย์เสียหายก่อนถึงมือผู้ประกอบการ (ผลไม้คงความสด สะอาด โดยไม่ใช้สารเคมี)

ปริมาณงานที่ทำได้ กำลังคนที่มีให้
  • เป็นอุปสรรค

แรงงานในพื้นที่มีน้อย ค่าแรงงานสูงมาก โดยเฉพาะค่าแรงงานคุณภาพยิ่งสูง เพื่อเก็บผลิต จัดการผลผลิตอย่างดีไม่ให้เสียหาย และกลุ่ม/เกษตรกรต้องดูแลควบคุมแรงงานอย่างดี เพื่อให้ทำตามแบบมาตรฐานเกษตรอินทรีย์

3. การมีส่วนร่วมและบทบาทของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง

3.1 ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องในแนวทางนี้และบทบาท

  • ผู้ใช้ที่ดินระดับท้องถิ่นหรือชุมชนระดับท้องถิ่น

เกษตรกร

ผู้ปลูกไม้ผล ประสบปัญหาเดียวกัน เช่น ปุ๋ย โรคแมลงศัตรูพืช การจัดการระบบน้ำ การตลาด จึงสนใจเข้ามาศึกษาดูงาน และเข้าร่วมเป็นสมาชิกของกลุ่ม เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันในการแก้ไขปัญหา

  • องค์กรที่ขึ้นอยู่กับชุมชน

กลุ่มมีการจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชน

และจัดตั้งเป็นแหล่งเที่ยวชุมชน (ปัถวีโมเดล)

  • ผู้เชี่ยวชาญ SLM หรือที่ปรึกษาการเกษตร

ศวพ. 6

ให้คำแนะนำการทำเกษตรอินทรีย์ตามมาตรฐานอ้างอิงตาม มกษ. 9000 เล่ม 1-2552 เกษตรอินทรีย์ บริการตรวจวิเคราะห์การปนเปื้อนของน้ำจากแหล่งน้ำสาธารณะ สนับสนุนปัจจัยการผลิต และตรวจรับรองแปลง เพื่อออกใบรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ Organic Thailand
ต่อมามีการตั้งกฎ กติกา และมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ปัถวีโมเดล เพื่อให้สมาชิกของกลุ่มปฏิบัติตามมาตรฐานอย่างเคร่งครัด และตรวจสอบได้

  • ครู เด็กนักเรียน หรือนักศึกษา

สถาบันการศึกษา พานักเรียน / นักศึกษา

สถาบันการศึกษา พานักเรียน / นักศึกษา มาอบรม ดูงาน และลงมือปฏิบัติจริง เพื่อให้เข้าใจกระบวนการผลิต ควบคู่การท่องเที่ยวชุมชน

  • ภาคเอกชน

บริษัทเอกชน

สนับสนุนเครื่องจักร เพื่อแปรรูปผลิตภัณฑ์ไม้ผลที่แก่ ขายไม่ได้ราคา เพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิต…รับซื้อผลผลิตของกลุ่ม

  • รัฐบาลระดับท้องถิ่น

อบจ.และ อบต.

ติดต่อประสานงานกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เข้ามาอบรม แนะนำให้ความรู้แก่สมาชิกกลุ่ม เพื่อการจัดการผลผลิต การคัดแยกเกรด บรรจุภัณฑ์ เพื่อเป็นไปตามมาตรฐานอินทรีย์ เพื่อจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า และส่งออกต่างประเทศ

สื่อมวลชน

ช่วยประชาสัมพันธ์,ผู้ประกอบการ,นักท่องเที่ยว

ถ้ามีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายคนที่เกี่ยวข้องให้ระบุหน่วยงานตัวแทน:

-

3.2 การเกี่ยวข้องของผู้ใช้ที่ดินระดับท้องถิ่นหรือชุมชนระดับท้องถิ่นในช่วงต่างๆของแนวทาง
ความเกี่ยวข้องของผู้ใช้ที่ดินระดับท้องถิ่นหรือชุมชนระดับท้องถิ่น ระบุผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและอธิบายกิจกรรม
การริเริ่มหรือการจูงใจ ระดมกำลังด้วยตนเอง เกษตรกรเจ้าของพื้นที่ดำเนินการ เพราะมีปัญหาด้านสุขภาพ จากการใช้สารเคมี ติดต่อกันมาเป็นเวลายาวนาน
การวางแผน ปฏิสัมพันธ์ เกษตรกรเจ้าของพื้นที่และเกษตรกรสมาชิก + ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ ไปอบรม ดูงาน ลงมือปฏิบัติ เพื่อนำมาปรับใช้ในพื้นที่การทำเกษตรอินทรีย์
การดำเนินการ ปฏิสัมพันธ์ เกษตรกรเจ้าของพื้นที่และเกษตรกรสมาชิก +เจ้าหน้าที่รัฐภายในพื้นที่ + เข้าร่วมกลุ่ม เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ วิเคราะห์ตลาดและหาตลาดร่วมกัน เปิดสวนให้เที่ยวฟรีกินฟรี การถ่ายองค์ความรู้ การออกร้านจำหน่ายสินค้า
การติดตามตรวจสอบหรือการประเมินผล ปฏิสัมพันธ์ เกษตรกรเจ้าของพื้นที่ดำเนินการ + สมาชิกกลุ่ม + เจ้าหน้าที่รัฐภายในพื้นที่ + นักท่องเที่ยว (ผู้บริโภค) + ผู้ประกอบการ มีการสุ่มตรวจของกลุ่ม และ มีสุ่มเก็บตัวอย่างผลผลิตไปตรวจสอบการปนเปื้อนของสารเคมี จากเจ้าหน้าที่รัฐ นักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการ
-

3.3 แผนผังแสดงขั้นตอนการทำงาน (ถ้ามี)

คำอธิบาย:

-

ผู้เขียน:

-

3.4 การตัดสินใจเลือกใช้เทคโนโลยี SLM

ระบุผู้ที่ทำการตัดสินใจเลือกเทคโนโลยีมากกว่าหนึ่งวิธีไปปฏิบัติใช้:
  • ผู้ลงมือปฏิบัติที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในฐานะที่เป็นส่วนรวมของแนวทาง
การอธิบาย:

-

ระบุว่าการตัดสินใจตั้งอยู่บนพื้นฐานของ:
  • ประสบการณ์และความคิดเห็นส่วนตัว (ไม่ได้ลงบันทึกไว้)

4. การสนับสนุนด้านเทคนิค การสร้างขีดความสามารถ และการจัดการด้านความรู้

4.1 การสร้างขีดความสามารถ / การอบรม

ได้มีการจัดอบรมให้แก่ผู้ใช้ที่ดินหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียคนอื่น ๆ หรือไม่:

ใช่

ให้ระบุว่าใครเป็นผู้ได้รับการอบรม:
  • ผู้ใช้ที่ดิน
ถ้าเกี่ยวข้อง ให้ระบุ เพศ อายุ สถานภาพ ชาติพันธุ์ เป็นต้น:

-

รูปแบบการอบรม:
  • เกษตรกรกับเกษตรกร
  • ใช้พื้นที่ทำการสาธิต
  • จัดการประชุมสู่สาธารณชน
หัวข้อที่พูด:

อบรมหัวข้อที่ 1 การผลิตอาหารปลอดภัย ทั้งผู้ผลิต และผู้บริโภค
อบรมหัวข้อที่ 2 การทำเกษตรอินทรีย์

ความคิดเห็น:

-

4.2 การบริการให้คำแนะนำ

ผู้ใช้ที่ดินมีการเข้าถึงการรับบริการให้คำปรึกษาหรือไม่:

ใช่

ระบุว่ามีบริการให้คำปรึกษาหรือไม่:
  • ไปเยี่ยมชมสถานที่
  • ที่ศูนย์ถาวร
การอธิบาย/แสดงความคิดเห็น:

เกษตรกร นักท่องเที่ยว นักเรียน/ นักศึกษา ผู้ประกอบการ ที่สนใจ สามารถเข้ามาศึกษาเรียนรู้ ขอคำแนะนำ ลงมือทำ และควบคู่กับการท่องเที่ยว จากเกษตรกรเจ้าของเทคโนโลยีได้ ที่ปัถวีโมเดล (แหล่งท่องเที่ยวชุมชน) ที่สำคัญได้ของติดไม้ติดมือกลับบ้าน (มีพืชผัก ผลไม้ และผลิตแปรรูปจากผลไม้อินทรีย์จำหน่าย) ติดต่อสอบถามนายรัฐไท พงษ์ศักดิ์ โทร. 063-2262251 หรือ Facebook รัฐไทศูนย์เรียนรู้ชุมชนปัถวี
Line : รัฐไทorganic group

4.3 การเสริมความแข็งแกร่งให้กับสถาบัน (การพัฒนาองค์กร)

สถาบันได้รับการจัดตั้งขึ้นมาหรือเสริมความแข็งแกร่งโดยแนวทางนี้หรือไม่:
  • ไม่

4.4 การติดตามตรวจสอบและประเมินผล

การติดตามตรวจสอบและประเมินผลเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางหรือไม่:

ใช่

ความคิดเห็น:

คิดเห็น กลุ่มเกษตรอินทรีย์ ปัถวีโมเดล เปิดสวนให้เที่ยวฟรีชิมฟรี นักท่องเที่ยว (ผู้บริโภค) /ผู้ประกอบการ สามารถแอบเอาผลผลิตไม่ตรวจการปนเปื้อนของสารเคมีได้ตลอด หลังจากได้ทราบผลวิเคราะห์ก็จะส่งผลมาให้เกษตรกรเจ้าของสวนได้ดู.... ตลาดที่กลุ่มส่งสินค้าเกษตรอินทรีย์ให้มีทั้งห้างสรรพสินค้า (เดอะมอลล์) TOP) และส่งออกไปญี่ปุ่น เกาหลี ยุโรป ซึ่งประเทศเหล่านี้จะมีการสุ่มตรวจทุกครั้ง...
สมาชิกที่เข้าร่วมกลุ่มจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ของกลุ่มอย่างเคร่งครัด มีการสุ่มตรวจแปลงสมาชิก เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของผลผลิตอินทรีย์ จนอาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของกลุ่ม

ถ้าตอบว่าใช่ แสดงว่าการจัดเตรียมเอกสารนี้มุ่งหวังที่จะเอาไปใช้สำหรับการติดตามตรวจสอบและประเมินผลใช่หรือไม่:

ใช่

ความคิดเห็น:

-

4.5 การวิจัย

การวิจัยเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางหรือไม่:

ไม่ใช่

5. การสนับสนุนด้านการเงินและวัสดุอุปกรณ์

5.1 ระบุงบประมาณประจำปีสำหรับแนวทาง SLM นี้

ถ้าหากว่างบประมาณประจำปีไม่เป็นที่ทราบแน่นอน ให้ระบุช่วงลงไป:
  • 10,000-100,000
แสดงความคิดเห็น (แหล่งของการระดมทุน ผู้บริจาคคนสำคัญ):

กรมพัฒนาที่ดิน สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดจันทบุรี เอกชน

5.2 การสนับสนุนด้านการเงิน / วัสดุอุปกรณ์ให้แก่ผู้ใช้ที่ดิน

ผู้ใช้ที่ดินได้รับการสนับสนุนด้านการเงิน / วัสดุอุปกรณ์ไปปฏิบัติใช้เทคโนโลยีหรือไม่:

ใช่

ถ้าใช่ ให้ระบุประเภทของการสนับสนุน เงื่อนไขและผู้จัดหามาให้:

กรมพัฒนาที่ดิน สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดจันทบุรี เอกชน สนับสนุนปัจจัยการผลิตสำหรับการทำแปลงสาธิต ป้าย โปสเตอร์ แผ่นพับ สื่อสิ่งพิมพ์ VDO เครื่องจักรแปรรูปผลิตภัณฑ์

5.3 เงินสนับสนุนสำหรับปัจจัยนำเข้า (รวมถึงแรงงาน)

  • อุปกรณ์
ระบุปัจจัยนำเข้าที่ได้รับการสนับสนุน เห็นด้วยระดับไหน ระบุเงินสนับสนุน
ได้รับการช่วยเหลือทางการเงินบางส่วน 140,000
ได้รับการช่วยเหลือทางการเงินบางส่วน 12,000
ถ้าแรงงานโดยผู้ใช้ที่ดินเป็นปัจจัยนำเข้าที่มีอยู่มากมาย ระบุด้วยว่าเนื่องจาก:
  • ให้ค่าตอบแทนด้วยการสนับสนุนด้านวัสดุอุปกรณ์อื่น ๆ
ความคิดเห็น:

-

5.4 เครดิต

มีการจัดหาเครดิตมาให้ภายใต้แนวทาง SLM หรือไม่:

ไม่ใช่

5.5 แรงจูงใจหรือเครื่องมืออื่น ๆ

แรงจูงใจหรือเครื่องมืออื่น ๆ ได้ถูกนำไปใช้ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี SLM หรือไม่:

ใช่

ถ้าใช่ ระบุ:

1. การจำหน่ายพืชผัก ไม้ผล ผลิตภัณฑ์แปรรูปไม้ผลอินทรีย์ แก่นักท่องเที่ยว ลูกค้าทั่วไปที่สั่งไม้ผลทางออนไลน์ ห้างสรรพสินค้า และตลาดต่างประเทศ
2. ค่าตอบแทนการทำหน้าที่วิทยากร เผยแพร่ความรู้จากภาครัฐ
3. ทำให้เกิดชื่อเสียงแพร่หลาย เป็นที่รู้จัก ทำให้ยิ่งขายผลิตของกลุ่มได้มากขึ้น
4. การได้รับรางวัลจากผลงานที่ทำ

6. การวิเคราะห์ผลกระทบและการสรุป

6.1 ผลกระทบของแนวทาง

ทำให้ผู้ใช้ที่ดินระดับท้องถิ่นมีอำนาจขึ้น ปรับปรุงการเข้าร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้ดีขึ้นหรือไม่:
  • ไม่ใช่
  • ใช่ เล็กน้อย
  • ใช่ ปานกลาง
  • ใช่ อย่างมาก

เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น จากการเข้าร่วมกลุ่มเกษตรอินทรีย์ ปัถวีโมเดล มีความเข้มแข็งเพิ่มขึ้น ตั้งราคาผลผลิตได้เอง มีความมั่นคงในอาชีพ

ช่วยในการตัดสินใจโดยดูจากหลักฐาน ได้หรือไม่:
  • ไม่ใช่
  • ใช่ เล็กน้อย
  • ใช่ ปานกลาง
  • ใช่ อย่างมาก

กลุ่มเกษตรอินทรีย์ ปัถวีโมเดล มีตลาดรองรับ กำหนดราคาจำหน่ายเอง ทำให้มีการลงทุนเพื่อสร้างโรงคัดแยกผลผลิต บรรจุภัณฑ์ ให้เป็นไปตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ เพื่อจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า และส่งออก

ช่วยให้ผู้ใช้ที่ดินนำเอาเทคโนโลยี SLMไปใช้และบำรุงรักษาสภาพไว้ได้หรือไม่:
  • ไม่ใช่
  • ใช่ เล็กน้อย
  • ใช่ ปานกลาง
  • ใช่ อย่างมาก

เกิดแรงบันดาลใจ อยากทำเกษตรอินทรีย์ เพราะขายได้ราคาสูง เพราะกระแสผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพมากขึ้น เลือกกินผลผลิตอินทรีย์เพิ่มมากขึ้น

ปรับปรุงความร่วมมือกันและการดำเนิน งานของ SLM ได้อย่างมีประสิทธิผลหรือไม่:
  • ไม่ใช่
  • ใช่ เล็กน้อย
  • ใช่ ปานกลาง
  • ใช่ อย่างมาก

กลุ่มจะมีการประชุมทุกวันที่ 20 ของเดือน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กระบวนการผลิต และมีการเผยแพร่องค์รู้ที่ใหม่ๆ ผ่านเฟสบุ๊คของกลุ่ม ช่วยตรวจสอบ/รักษามาตรฐานผลผลิตของกลุ่ม ช่วยกันวิเคราะห์ ตลาด และประชาสัมพันธ์กลุ่ม

ระดมกำลังหรือปรับปรุงการเข้าถึงแหล่ง เงินทุนสำหรับการดำเนินการ SLM หรือไม่:
  • ไม่ใช่
  • ใช่ เล็กน้อย
  • ใช่ ปานกลาง
  • ใช่ อย่างมาก

จัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน ง่ายต่อการขอกู้เงิน แต่กลุ่มไม่กู้ เพราะไม่อยากเป็นหนี้ อยากทำตามกำลัง แต่ประธานกลุ่มเป็้นคนกู้เงิน เพื่อเอาเงินมาสร้างโรงคัดแยกผลผลิต บรรจุ ก่อนจำหน่าย เป็นความเสียสละของประธาน

ปรับปรุงความรู้และความสามารถของผู้ใช้ที่ดินในการดำเนินการ SLM หรือไม่:
  • ไม่ใช่
  • ใช่ เล็กน้อย
  • ใช่ ปานกลาง
  • ใช่ อย่างมาก

มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเกษตรกรผู้ใช้เทคโนโลยีเอสแอลเอ็ม /สมาชิกในกลุ่ม มีการคิดริเริ่ม ทดลองวิธีใหม่เพื่อกำจัดโรคแมลงศัตรพืช และเผยแพร่แลกเปลี่ยนกันภายในกลุ่ม

ปรับปรุงความรู้และความสามารถของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียคนอื่น ๆ ให้ดีขึ้นหรือไม่:
  • ไม่ใช่
  • ใช่ เล็กน้อย
  • ใช่ ปานกลาง
  • ใช่ อย่างมาก

มีการแลกเปลี่ยนความรู้ และตรวจแปลงเพื่อนในกลุ่มทำให้มีการพัฒนาความรู้ตลอดเวลา

ทำให้ผู้ใช้ที่ดินระดับท้องถิ่นมีอำนาจขึ้น ปรับปรุงการเข้าร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้ดีขึ้นหรือไม่:
  • ไม่ใช่
  • ใช่ เล็กน้อย
  • ใช่ ปานกลาง
  • ใช่ อย่างมาก

เป็นกลุ่มที่เข้มแข็ง จัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน มีการประชุมทุกเดือน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ร่วมแก้ปัญหาด้วยกัน วิเคราะห์ตลาด และมีหน่วยงานรัฐสนับสนุนให้ตั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน (ปัถวีโมเดล) สนับสนุนการผลิตอาหารปลอดภัยระดับจังหวัด ทำให้กลุ่มมีความเข็มแข็งเพิ่มขึ้น

ส่งเสริมให้เยาวชนหรือบุตรหลานของผู้ใช้ที่ดินให้เข้าร่วมใน SLM:
  • ไม่ใช่
  • ใช่ เล็กน้อย
  • ใช่ ปานกลาง
  • ใช่ อย่างมาก

มีการเผยแพร่ เทคโนโลยีผ่านช่องทางสื่อต่างๆ เช่น TV Youtube เพจ เฟสบุ๊ค Line การออกงาน/ออกร้านนอกสถานที่ เปิดให้มาศึกษาดูงาน ลงมือทำ ควบคู่กับการท่องเที่ยว ได้ทั้งความรู้ ความเพลิดเพลินไม่เบื่อ ดีกว่าเรียนรู้เฉพาะในห้องเรียน และได้ของฝากกลับบ้าน

นำไปสู่ความมั่นคงด้านอาหารหรือปรับปรุงโภชนาการให้ดีขึ้น:
  • ไม่ใช่
  • ใช่ เล็กน้อย
  • ใช่ ปานกลาง
  • ใช่ อย่างมาก

เป็นเทคโนโลยีช่วยฟื้นฟูและปรับปรุงดินให้ดินดีขึ้น ไม่ทำลายสภาพแวดล้อม ปลอดภัยทั้งผู้ผลิต ผู้บริโภค เป็นการจัดการทรัพยากรดินอย่างยั่งยืน

ปรับปรุงการเข้าถึงตลาดหรือไม่:
  • ไม่ใช่
  • ใช่ เล็กน้อย
  • ใช่ ปานกลาง
  • ใช่ อย่างมาก

ผลผลิตอินทรีย์ เป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น เพราะกระแสนิยมของผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ตลาดมีมากมายขึ้น กำหนดราคาผลผลิตเอง

มีการจ้างแรงงานเพิ่มขึ้น เพราะการทำเกษตรอินทรีย์ เป็นเกษตรประณีตทุกขั้นตอนกระบวนการผลิต เก็บเกี่ยว คัดแยก ล้าง บรรจุภัณฑ์ให้เป็นไปตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ดังนั้นต้องใช้แรงงานมาก และเป็นแรงงานประณีต ทำให้ค่าแรงงานสูง

6.2 แรงจูงใจหลักของผู้ใช้ที่ดินเพื่อที่จะนำ SLM ไปปฏิบัติใช้

  • กำไร (ความสามารถ) อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อผลประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น

ราคาผลผลิตสูง ได้รับผลตอบแทนมากขึ้น

  • การเสื่อมของที่ดินลดลง

-

  • การเข้าร่วมสมทบในขบวนการ โครงการ กลุ่ม เครือข่าย

มีรวมกลุ่มเกษตรอินทรีย์ ปัถวีโมเดล จดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชน

  • จิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม

-

  • ความรู้และทักษะ SLM ที่เพิ่มพูนขึ้น

มีการคิดริเริ่ม ทดลองวิธีการใหม่เพื่อแก้ปัญหากระบวนการผลิต และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายในกลุ่มทุกเดือน ผ่านการประชุมกลุ่ม

6.3 ความยั่งยืนของกิจกรรมของแนวทาง

ผู้ใช้ที่ดินสามารถทำให้สิ่งต่างๆ ที่ได้ปฏิบัติใช้โดยแนวทางนี้ยั่งยืนได้หรือไม่ (โดยไม่มีการสนับสนุนจากภายนอก):
  • ใช่
ถ้าตอบว่าใช่ ให้อธิบายว่าอย่างไร :

เกษตรกรผู้ใช้ที่ดินสามารถดำเนินการได้เองโดยไม่ต้องรอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ

6.4 จุดแข็งและข้อได้เปรียบของแนวทาง

จุดแข็ง / ข้อได้เปรียบของแนวทางในทัศนคติของผู้ใช้ที่ดิน
1. มีแหล่งเรียนรู้ ดูงาน เพื่อศึกษาหาข้อมูลไปแก้ไขปัญหาในการประกอบอาชีพ
2. ทำให้เกิดความมั่นคงในอาชีพ เพราะกลุ่มช่วยกันขับเคลื่อน ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันเป็นประจำทุกเดือน แบ่งปันปัจจัยการผลิต ตรวจติดตามแปลงของสมาชิกกลุ่ม เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ปัถวีโมเดล วิเคราะห์และหาตลาด ร่วมกัน
3. ผลผลิตเกษตรอินทรีย์ มีราคาสูง และกลุ่มกำหนดราคาเอง เป็นแรงจูงใจในการทำเกษตรอินทรียืน
4. เพิ่มช่องทางให้ผู้บริโภคเข้าถึง พืชผัก ผลไม้อินทรีย์ โดยการขายผ่านออนไลน์ เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชน (ปัถวีโมเดล) เที่ยวฟรี กินฟรี
5. สร้างความเชื่อมั่นให้กับคนที่สนใจจะทำเกษตรอินทรีย์
6. ทำให้เกิดมี่สังสรรค์ recreation ทำให้เกิดความสุขในการที่ได้มีโอกาสพบและแลกเปลี่ยน ซึ่งกันและกัน
7.ทำให้เกิดช่องทาง และโอกาสในการเรียนรู้มากขึ้น
8. สุขภาพดีขึ้น
จุดแข็ง / ข้อได้เปรียบของแนวทางในทัศนคติของผู้รวบรวมหรือวิทยากรหลัก
1) กลุ่มเกษตรอินทรีย์ ปัถวีโมเดลเข้มแข็ง เพราะผู้นำกลุ่ม/ ประธาน เป็นผู้เสียสละเวลา สถานที่ เงิน พัฒนาองค์ความรู้ไม่หยุด เพื่อแก้ปัญหากระบวนการผลิต และเป็นหน้าตา/ภาพลักษณ์ของกลุ่ม ทำให้ผู้บริโภค ผู้ประกอบการมั่นใจคุณภาพผลผลิต เพิ่มช่องทางหรือขยายตลาด

6.5 จุดอ่อน / ข้อเสียเปรียบของแนวทางและวิธีในการแก้ไข

จุดอ่อน / ข้อเสียเปรียบในทัศนคติของผู้ใช้ที่ดิน สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างไร
การบริหารจัดการคนหมู่มาก ยาก มีหลากหลายแนวคิด/ วีธีการ เพื่อแก้ปัญหาโรคแมงศัตรูพืช การเร่งดอก เพิ่มผลผลิต แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และภูมิอากาศของจังหวัดจันทบุรี
สมาชิกกลุ่ม ไม่ว่าง ทำให้ขาดการประชุมประจำเดือน มีการถ่าย VDO ระหว่างประชุมกลุ่ม เพื่อให้สมาชิกที่ขาดประชุมรับทราบข้อมูล ที่เกิดจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน
ทุนบริหารกลุ่มมีน้อย กลุ่มจะค่อยๆ เดิน ตามกำลัง ไม่กู้หนี้มาดำเนินงาน เพิ่มเงินของกลุ่ม โดยการหักเงินจากสมาชิก ที่ขายผลผลิต ปีไหน ขายได้ราคา จะหักเข้ากลุ่มมาก แต่กลุ่มต้องยอมรับ เพื่อเอาไว้บริหารกลุ่ม หรือชดเชยให้กลุ่ม เพราะเกิดจากมีการส่งคืนผลไม้อินทรีย์จากตลาดต่างประเทศ กลุ่มจะจ่ายเงินให้เพื่อชดเชยค่าเสียหาย ไม่เก็บจากสมาชิก ถ้าปีไหน ราคาผลผลิตต่ำ กลุ่มจะไม่หักเงินเข้ากลุ่ม กรณีไม่มีเงินกลุ่มชดเชยค่าเสียหายที่ตลาดส่งคืนไม้ผล ประธานกลุ่มจะออกเงินชดเชยให้ ไม่เรียกเก็บจากสมาชิก
เกิดความขัดแย้งจากกฎ กติกาของกลุ่ม มากคนมากความคิด ร่วมพูดคุย มีการติดตาม ตรวจแปลงของสมาชิก ที่ต้องสงสัย อาจทำผิดมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ของกลุ่ม แปลงที่ผ่านการรับรอง ผลผลิตจะอยู่ในระดับเกรด A ขายได้ราคาสูง เป็นการสร้างแรงจูงใจ
ขาดความรู้ และข้อปฏิบัติ จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ศึกษาดูงาน ภาครัฐควรสนับสนุน
จุดอ่อน / ข้อเสียเปรียบในทัศนคติของผู้รวบรวมหรือวิทยากรหลัก สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างไร
- -
- -
- -

7. การอ้างอิงและการเชื่อมต่อ

7.1 วิธีการหรือแหล่งข้อมูล

  • ไปเยี่ยมชมภาคสนาม การสำรวจพื้นที่ภาคสนาม

-

  • การสัมภาษณ์กับผู้ใช้ที่ดิน

5

  • การสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญด้าน SLM หรือผู้ชำนาญ

1

7.2 การอ้างอิงถึงสิ่งตีพิมพ์

ชื่อเรื่อง ผู้เขียน ปี ISBN:

Organic Farming System in the Context of Sufficiency Economy: Case Study of Organic Farmers in Mae Rim Watershed, Chiang Mai Province / Tawan Hangsoongnern, Pongsak Angkasith, Avorn Opatpatanakit and Ruth Sirisunyluck / 30 ฉบับที่ 1 มกราคม 2557 / ISSN 0857-0841

ช่องทางในการสืบค้น และราคา:

http://journal.agri.cmu.ac.th/content.asp?JID=121&CID=911

7.3 เชื่อมโยงกับข้อมูลที่มีอยู่บนออนไลน์

ชื่อเรื่องหรือคำอธิบาย:

-

URL:

-

โมดูล