Strategies of traditional shifting cultivation [บังกลาเทศ]
- ผู้สร้างสรรค์:
- การอัพเดท:
- ผู้รวบรวม: Abdul Gafur
- ผู้เรียบเรียง: –
- ผู้ตรวจสอบ: Fabian Ottiger
approaches_2403 - บังกลาเทศ
ดูส่วนย่อย
ขยายทั้งหมด ย่อทั้งหมด1. ข้อมูลทั่วไป
1.2 รายละเอียดที่ติดต่อได้ของผู้รวบรวมและองค์กรที่เกี่ยวข้องในการประเมินและการจัดเตรียมทำเอกสารของแนวทาง
ผู้เชี่ยวชาญ SLM:
ผู้เชี่ยวชาญ SLM:
ชื่อของโครงการซึ่งอำนวยความสะดวกในการทำเอกสารหรือการประเมินแนวทาง (ถ้าเกี่ยวข้อง)
Soil Resource Development Institute (SRDI) (Soil Resource Development Institute (SRDI)) - บังกลาเทศชื่อของโครงการซึ่งอำนวยความสะดวกในการทำเอกสารหรือการประเมินแนวทาง (ถ้าเกี่ยวข้อง)
Society for Environment and Human Development (SEHD) (Society for Environment and Human Development (SEHD)) - บังกลาเทศ1.3 เงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับการใช้ข้อมูลที่ได้บันทึกไว้ผ่านทาง WOCAT
ผู้รวบรวมและวิทยากรหลักยอมรับเงื่อนไขเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลที่ถูกบันทึกผ่านทาง WOCAT:
ใช่
1.4 การอ้างอิงถึงแบบสอบถามเรื่องเทคโนโลยี SLM
Traditional Shifting Cultivation [บังกลาเทศ]
Traditional shifting cultivation is a rain-fed cultivation practice of the trible people of CHT (Chittagong Hill Tracts) for their subsistence, where natural vegetation is cleared off by slash-and-burn, to grow mixed annual crop for one year and then the land is left fallow for 3-5 years for natural regeneration.
- ผู้รวบรวม: Abdul Gafur
2. คำอธิบายของแนวทาง SLM
2.1 การอธิบายแบบสั้น ๆ ของแนวทาง
Tradtional appraoch to jhuming involving tribal institutions and traditonal knowledge based technologies.
2.2 การอธิบายอย่างละเอียดของแนวทาง
การอธิบายอย่างละเอียดของแนวทาง:
Aims / objectives: The main purpose of the approach is to facilitate the tribal population with no cultivable landownership to seek their subsistence by adopting tradtional jhum practice by involving the entire family members. The specific objectives is to ensure site allocation within the communites for jhum and to ensure that the age old knowledge about shifting cultivation is passed on to the next generations.
Methods: The method to achieving this is that the tribals have a very strong local institution comprising of King, Dewan, Head man, and Karbari, priests and the villagers. In case of knowledge transfer, head of a family ensures that he/she passes on the technology information to his/her followers.
Stages of implementation: At evry stage of the implementation of jhum, the landusers are supported by the local institutions and their tradtional custams, attitudes and beliefs.
Role of stakeholders: The tribal institution takes care of the problems encourtered by the landusers during selection of jhum sites and overall activities of jhum.
2.5 ประเทศ ภูมิภาค หรือสถานที่ตั้งที่ได้นำแนวทางไปใช้
ประเทศ:
บังกลาเทศ
ภูมิภาค/รัฐ/จังหวัด: :
Chittagogn Hill Tracts
Map
×2.7 ประเภทของแนวทาง
- แบบดั้งเดิม/ แบบพื้นเมิอง
2.8 เป้าหมายหรือวัตถุประสงค์หลักของแนวทาง
The Approach focused mainly on SLM with other activities (Slashing, burning, weeding)
The main purpose of the approach is to facilitate the tribal population with no cultivable landownership to seek their subsistence by adopting tradtional jhum practice by involving the entire family members. The specific objectives is to ensure site allocation within the communites for jhum and to ensure that the age old knowledge about shifting cultivation is passed on to the next generations. The method to achieving this is that the tribals have a very strong local institution comprising of King, Dewan, Head man, and Karbari, priests and the villagers. In case of knowledge transfer, head of a family ensures that he/she passes on the technology information to his/her followers. At evry stage of the implementation of jhum, the landusers are supported by the local institutions and their tradtional custams, attitudes and beliefs. The tribal institution takes care of the problems encourtered by the landusers during selection of jhum sites and overall activities of jhum.
The SLM Approach addressed the following problems: That the poor triabal communities with no landownership can make a livelihood by jhum practice without any inter/intra commmunity conflicts. It also ensures that outside interference which might threaten the jhumias livelihood is minimised.
2.9 เงื่อนไขที่เอื้ออำนวยหรือเป็นอุปสรรคต่อการนำเทคโนโลยีภายใต้แนวทางนี้ไปปฏิบัติใช้
บรรทัดฐานและค่านิยมทางสังคม วัฒนธรรม ศาสนา
- เป็นอุปสรรค
Lack of ownership, scarcity of judicially cultivated plain land, During site selection.
Treatment through the SLM Approach: Ensure land ownership,Priests advice, local instituion involevment in every steps of Jhuming
การมีไว้ให้หรือการเข้าถึงแหล่งการเงินและบริการ
- เป็นอุปสรรค
Taking more area for jhum and increase inputs, no credit for Jhum.
Treatment through the SLM Approach: They opt for less area and traditional way of cultivation.
การจัดตั้งระดับองค์กร
- เป็นอุปสรรค
Lack employment opportunities
Treatment through the SLM Approach: Involvement and support from state institutions.
กรอบแนวทางในการดำเนินการด้านกฎหมาย (การถือครองที่ดิน สิทธิในการใช้ที่ดินและน้ำ)
- เอื้ออำนวย
The existing land ownership, land use rights / water rights greatly helped the approach implementation: If land tenureship was legalised the tribals may have opted for settled agriculture.
- เป็นอุปสรรค
No development focus
Treatment through the SLM Approach: Credit facilities may be provided, state ensured landownership.
ความรู้เกี่ยวกับ SLM การเข้าถึงการสนับสนุนด้านเทคนิค
- เป็นอุปสรรค
Scarcity of HYV seeds, fetilizer and pesticide.
Treatment through the SLM Approach: Ensure availability of all farm inputs.
3. การมีส่วนร่วมและบทบาทของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง
3.1 ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องในแนวทางนี้และบทบาท
- องค์กรที่ขึ้นอยู่กับชุมชน
Specific ethnic groups: Chakma Tribes in the CHT.
The practice as such involves the poor land users. Working land users were mainly men
3.2 การเกี่ยวข้องของผู้ใช้ที่ดินระดับท้องถิ่นหรือชุมชนระดับท้องถิ่นในช่วงต่างๆของแนวทาง
ความเกี่ยวข้องของผู้ใช้ที่ดินระดับท้องถิ่นหรือชุมชนระดับท้องถิ่น | ระบุผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและอธิบายกิจกรรม | |
---|---|---|
การริเริ่มหรือการจูงใจ | ไม่มี | |
การวางแผน | ปฏิสัมพันธ์ | public meetings; Plan within the triabls the distribution of land for jhum. |
การดำเนินการ | ระดมกำลังด้วยตนเอง | responsibility for major steps; By individual households. |
การติดตามตรวจสอบหรือการประเมินผล | ปฏิสัมพันธ์ | measurements/observations; By the landusers. |
Research | ไม่มี |
3.4 การตัดสินใจเลือกใช้เทคโนโลยี SLM
ระบุผู้ที่ทำการตัดสินใจเลือกเทคโนโลยีมากกว่าหนึ่งวิธีไปปฏิบัติใช้:
- ผู้ใช้ที่ดินเพียงผู้เดียว ( ริเริ่มด้วยตัวเอง)
การอธิบาย:
Individual household based decision
Decisions on the method of implementing the SLM Technology were made by by land users* alone (self-initiative / bottom-up). In close consultation with the local jhum based institution.
4. การสนับสนุนด้านเทคนิค การสร้างขีดความสามารถ และการจัดการด้านความรู้
4.1 การสร้างขีดความสามารถ / การอบรม
ได้มีการจัดอบรมให้แก่ผู้ใช้ที่ดินหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียคนอื่น ๆ หรือไม่:
ใช่
ให้ระบุว่าใครเป็นผู้ได้รับการอบรม:
- ผู้ใช้ที่ดิน
รูปแบบการอบรม:
- กำลังดำเนินการ
หัวข้อที่พูด:
The family head gives training their off spring.
4.2 การบริการให้คำแนะนำ
ผู้ใช้ที่ดินมีการเข้าถึงการรับบริการให้คำปรึกษาหรือไม่:
ใช่
ระบุว่ามีบริการให้คำปรึกษาหรือไม่:
- ไปเยี่ยมชมสถานที่
การอธิบาย/แสดงความคิดเห็น:
Name of method used for advisory service: Jhumia to jhumia hands on extension method.; Key elements: Interaction between two generations., Interactions between jhumia based local institutions., On the job training.; 1) Advisory service was carried out through: landusers 2) Advisory service was carried out through: landusers; e 3) Target groups for extension: land users.
4.3 การเสริมความแข็งแกร่งให้กับสถาบัน (การพัฒนาองค์กร)
สถาบันได้รับการจัดตั้งขึ้นมาหรือเสริมความแข็งแกร่งโดยแนวทางนี้หรือไม่:
- ใช่ อย่างมาก
ระบุระดับของสถาบันที่ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งหรือจัดตั้งขึ้นมา:
- ท้องถิ่น
ระบุประเภทของการให้ความช่วยเหลือสนับสนุน:
- การสร้างขีดความสามารถ / การอบรม
4.4 การติดตามตรวจสอบและประเมินผล
การติดตามตรวจสอบและประเมินผลเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางหรือไม่:
ใช่
ความคิดเห็น:
bio-physical aspects were ad hoc monitored through observations
socio-cultural aspects were regular monitored through observations
5. การสนับสนุนด้านการเงินและวัสดุอุปกรณ์
5.1 ระบุงบประมาณประจำปีสำหรับแนวทาง SLM นี้
แสดงความคิดเห็น (แหล่งของการระดมทุน ผู้บริจาคคนสำคัญ):
Approach costs were met by the following donors: local community / land user(s) (Meetings): 100.0%
5.2 การสนับสนุนด้านการเงิน / วัสดุอุปกรณ์ให้แก่ผู้ใช้ที่ดิน
ผู้ใช้ที่ดินได้รับการสนับสนุนด้านการเงิน / วัสดุอุปกรณ์ไปปฏิบัติใช้เทคโนโลยีหรือไม่:
ไม่ใช่
5.3 เงินสนับสนุนสำหรับปัจจัยนำเข้า (รวมถึงแรงงาน)
- ไม่มี
5.4 เครดิต
มีการจัดหาเครดิตมาให้ภายใต้แนวทาง SLM หรือไม่:
ไม่ใช่
6. การวิเคราะห์ผลกระทบและการสรุป
6.1 ผลกระทบของแนวทาง
ช่วยให้ผู้ใช้ที่ดินนำเอาเทคโนโลยี SLMไปใช้และบำรุงรักษาสภาพไว้ได้หรือไม่:
- ไม่ใช่
- ใช่ เล็กน้อย
- ใช่ ปานกลาง
- ใช่ อย่างมาก
Did other land users / projects adopt the Approach?
- ไม่ใช่
- ใช่ เล็กน้อย
- ใช่ ปานกลาง
- ใช่ อย่างมาก
Other tribal communities of CHT (about 12 in number) have a similar approach to jhum.
6.3 ความยั่งยืนของกิจกรรมของแนวทาง
ผู้ใช้ที่ดินสามารถทำให้สิ่งต่างๆ ที่ได้ปฏิบัติใช้โดยแนวทางนี้ยั่งยืนได้หรือไม่ (โดยไม่มีการสนับสนุนจากภายนอก):
- ใช่
6.4 จุดแข็งและข้อได้เปรียบของแนวทาง
จุดแข็ง / ข้อได้เปรียบของแนวทางในทัศนคติของผู้ใช้ที่ดิน |
---|
Food security and poverty aleviation. (How to sustain/ enhance this strength: They would rather prefer settled agriculture.) |
Multiple crop production round the year. |
Less costly and less laborious. |
Availability of fuel and timber. |
จุดแข็ง / ข้อได้เปรียบของแนวทางในทัศนคติของผู้รวบรวมหรือวิทยากรหลัก |
---|
Inspite of land ownership conflicts, local institutions function efficiently to maintain harmony in the community. (How to sustain/ enhance this strength: The strenght of local institutions need to be optimally used by the projects and programs to develop and test better and sustainable production systems from a SWC perspective in CHT.) |
Easy to adopt and less costly to implement. |
Marginal lands can be used. |
Self employment for the entire family. |
Ensures food security and poverty elevation. |
Multi-crop based production system for the whole year. |
Gender equity. |
Availability of fuel and timber. |
Traditional knowledge based practice. |
6.5 จุดอ่อน / ข้อเสียเปรียบของแนวทางและวิธีในการแก้ไข
จุดอ่อน / ข้อเสียเปรียบในทัศนคติของผู้ใช้ที่ดิน | สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างไร |
---|---|
Soil degradation and low productivity. | Financial support and land rights ensured. |
จุดอ่อน / ข้อเสียเปรียบในทัศนคติของผู้รวบรวมหรือวิทยากรหลัก | สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างไร |
---|---|
The appraoch promotes soil and land degradation, deforestation and loss of flora and fauna. | The landusers should be encoraged to take up settled agriculture ensuring their land rights and logistic supports from liquidity and technical amd material support. |
7. การอ้างอิงและการเชื่อมต่อ
7.1 วิธีการหรือแหล่งข้อมูล
- ไปเยี่ยมชมภาคสนาม การสำรวจพื้นที่ภาคสนาม
- การสัมภาษณ์กับผู้ใช้ที่ดิน
7.2 การอ้างอิงถึงสิ่งตีพิมพ์
ชื่อเรื่อง ผู้เขียน ปี ISBN:
Sustainability Appraisal of Shifting Cultivation in the Chittagong Hill Tracts of Bangladesh. By Ole K. Borggaard, Abdul Gafur and Leif Petersen.
ช่องทางในการสืบค้น และราคา:
Ambio Vol. 32 No. 2, 118-123, March 2003.
ชื่อเรื่อง ผู้เขียน ปี ISBN:
Runoff and losses of soil and nutrients from small watersheds under shifting cultivation (Jhum) in the CHT of Bangladesh. Abdul Gafur et al. 2003
ช่องทางในการสืบค้น และราคา:
Journal of Hydrology, Volume 274, Issues 1-4, 1 April 2003, Pages 30-46
ชื่อเรื่อง ผู้เขียน ปี ISBN:
Changes in Soil Nutrient Content under Shifting Cultivation in the Chittagong Hill Tracts of Bangladesh. Abdul Gafur, et al. 2000.
ช่องทางในการสืบค้น และราคา:
Danish Journal of Geography 100: 37-46
ลิงก์และโมดูล
ขยายทั้งหมด ย่อทั้งหมดลิงก์
Traditional Shifting Cultivation [บังกลาเทศ]
Traditional shifting cultivation is a rain-fed cultivation practice of the trible people of CHT (Chittagong Hill Tracts) for their subsistence, where natural vegetation is cleared off by slash-and-burn, to grow mixed annual crop for one year and then the land is left fallow for 3-5 years for natural regeneration.
- ผู้รวบรวม: Abdul Gafur
โมดูล
ไม่มีโมดูล